ใครบ้างที่ควรใส่หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัยนั้นใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย กลุ่มคนที่ควรใช้หน้ากากอนามัยเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อจากตัวเองไปยังผู้อื่น หรือป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อจากผู้ป่วยคนอื่น ๆ ได้แก่
- ผู้ที่ต้องอยู่ใกล้หรือมีการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
- ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจซึ่งต้องใกล้ชิดกับคนปกติ หรือต้องออกไปนอกบ้าน
- ผู้ที่ต้องเข้าไปยังบริเวณเสี่ยงติดเชื้อ หรือสถานที่ที่มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรงพยาบาล หรือสถานที่ที่มีคนแออัด เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องทำความสะอาด ที่ต้องพบเจอกับฝุ่นละออง และน้ำยาทำความสะอาด
ในการทำความสะอาด นอกจากต้องมีอุปกรณ์ในการทำความสะอาดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ คือ หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัย คือ หน้ากากที่ใช้เพื่อช่วยป้องกันระบบทางเดินหายใจจากมลพิษ สารพิษ และเชื้อโรค ในหลายกรณี แพทย์มักแนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเป็นวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ หากรู้วิธีใช้ที่ถูกต้องก็จะช่วยให้การป้องกันนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หน้ากากอนามัย ผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีนซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ โดยหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพจะต้องมีชั้นกรองอย่างน้อย 3 ชั้น เพื่อช่วยในการป้องกันเชื้อโรค มลพิษหรือของเหลวจากภายนอก และช่วยดูดซับสารคัดหลั่งหรือความชื้นที่มาจากผู้ใช้ ป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายสู่ผู้อื่น
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป
- ล้างมือทำความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ติดอยู่บริเวณมือ
- เลือกขนาดของหน้ากากอนามัยให้เหมาะสม
- ใส่หน้ากากอนามัยให้พอดีกับใบหน้า โดยหันด้านที่มีสีออก และให้ด้านที่มีลวดอยู่ด้านบน หากเป็นหน้ากากอนามัยชนิดไม่มีสี ให้สังเกตรอยพับของหน้ากากอนามัย หากมุมของรอยพับชี้ลงด้านล่างด้านนั้นจะเป็นด้านนอกของหน้ากากอนามัย
- ขณะใส่หน้ากากอนามัย หากเป็นหน้ากากแบบที่ต้องผูกปลายเชือกเข้าด้วยกัน ให้ผูกเชือกเส้นล่างที่บริเวณต้นคอ ส่วนเส้นบนผูกบริเวณศีรษะ หากเป็นชนิดสายยางยืด ให้คล้องที่หูทั้งสองข้าง แล้วบีบบริเวณเส้นลวดให้พอดีกับจมูก จะทำให้หน้ากากอนามัยพอดีกับใบหน้า
- ดึงหน้ากากอนามัยให้ปิดบริเวณปาก จมูก และคาง เป็นอันเรียบร้อย
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments